วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
+บทความศาลไคฟง

“น้ำพุเต้นระบำ” แลนด์มาร์คกลางลานเมืองพัทยา พังซ้ำซาก งานวัดใจ “นายกฯเบียร์” เอาไงต่อ หรือต้องรอ ปปช.เข้ามาตรวจสอบ!?

จากกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายให้จัดระเบียบท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และทวงคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังเป็นการปรับสภาพภูมิทัศน์เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ในเดือนพ.ย.2560 ซึ่งผู้บริหารสภาเมืองพัทยาในขณะนั้นได้อนุมัติงบประมาณกว่า 95 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงอาคารท่าเทียบเรือ ภายใต้งบประมาณ 13 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับภูมิทัศน์โดยรอบในเนื้อที่ 10 ไร่อีก ภายใต้งบประมาณกว่า 81 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีโครงการ “ลานน้ำพุเต้นระบำ” เพื่อสร้างสีสันและแลนด์มาร์กใหม่ทางการท่องเที่ยว ซึ่งผ่านการใช้งานมาได้เพียง 2 ปี ในช่วงที่สร้างเสร็จใหม่ๆ โดยจะมีการเปิดใช้งานบ้าง ปิดบ้าง ชำรุดบ้าง เรียกได้ว่าใช้งานแบบไม่สมประโยชน์ จนมาถึงวันนี้มีการปรับพื้นที่ลานท่าเรือบาลีฮายเป็นลานเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่มีประชาชนมีใช้งาน ทั้งการจอดรถและทำกิจกรรมในช่วงเย็นของทุกวัน

แต่พบว่า “น้ำพุเต้นระบำ” ที่เมืองพัทยาระบุว่าจะทำเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ กลับไม่ได้รับการดูแล ปล่อยให้เกิดความเสียหาย จนไม่สามารถนำกลับมาใช้งานปกติได้ ขณะที่ต้องใช้งบประมาณลงไปดำเนินการเป็นจำนวนมาก

สำหรับ “ลานน้ำพุเต้นระบำ“ ที่เมืองพัทยาได้ทุ่มงบประมาณในการจัดสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ด้านการท่องเที่ยวนั้น มีคำชี้แจงที่ผ่านมาว่า ระบบปั๊มน้ำไฮโดรลิคใต้ลานน้ำพุ ขนาดบรรจุน้ำ 50-60 ลบ.ม. รวมทั้งไฟส่องสว่าง LED และท่อน้ำพุที่ชำรุดพังเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เมืองพัทยาได้ประสานผู้รับจ้างที่มีความเชี่ยวชาญให้เข้ามาซ่อมแซมแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้สมกับความเป็นแลนด์มาร์ค หรือเม็ดเงินจากงบประมาณที่ทุ่มลงไปแต่อย่างใด

เรื่องนี้ต้องขอฝากผ่านไปยัง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ให้เร่งสำรวจโครงการเก่าๆ ที่ใช้งบประมาณจำนวนมากแต่ไม่มีการดูแลจนพังเสียหาย จากนั้นให้ทำการปรับปรุงเพื่อใช้งานได้ใหม่ให้สมประโยชน์ตามที่เมืองพัทยาตั้งเจตนารมณ์ไว้ หรือไม่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ปปช.ก็ควรเข้ามาตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณกับความคุ้มค่าในการใช้งานจริง.